นาที 45 บราซิลมาได้เม็ดที่สองนำห่าง เรนาน โลดี้ ครอสบอลจากซ้ายเข้ามา ริชาร์ลิซอน เทกตัวโขกบอลลงพื้นเสียบมุมตาข่ายเข้าไปอย่างเฉียบขาดให้ บราซิล นำห่างเจ้าบ้าน 2-0 ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบด้วยสกอร์นี้
ทั้ง 2 ทีมกลับมาลงเล่นในครึ่งหลังโดยที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนตัว และเข้าสู่นาทีที่ 50 โฮเซ่ ฆิเมเนซ ดาวเตะเจ้าถิ่นก็มาโดนใบเหลืองจากจังหวะทำฟาวล์ กาเบรียล เชซุส ในตอนที่ บราซิล กำลังเล่นเกมสวนกลับเร็ว ยังเป็นทีมเยือนที่ดูสร้างความอันตรายได้มากกว่า โดยในนาทีที่ 56 เรนัน โลดี้ บุกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายและพยายามเปิดบอลให้เพื่อนร่วมทีม แต่ กัมปาน่า ก็ตะครุบบอลเอาไว้ได้ 3 นาทีให้หลัง ริชาร์ลิซอน ได้รับใบเหลืองจากจังหวะที่ไปกระแทกกับ เด ลา ครูซ ตรงริมเส้น อุรุกวัย ทำการเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 60 โดยที่ เมาโร อารัมบาร์รี่ ถูกส่งลงไปแทน ลูกัส ตอร์เรยร่า และ ไบรอัน โรดริเกซ ได้ลงไปแทน โรดริโก้ เบนตันกูร์ นานเดซ กลายเป็นนักเตะเจ้าถิ่นที่ได้รับใบเหลืองเป็นคนที่สองของเกมนี้ในนาทีที่ 67 หลังจากที่ไปทำฟาวล์ อาร์ตูร์ อุรุกวัย มาเหลือผู้เล่น 10 คน ในนาทีที่ 71 หลังจากที่ผู้ตัดสินไปเช็ค วีเออาร์ จังหวะที่ เอดินสัน คาวานี่ ไปเหยียบใส่ ริชาร์ลิซอน แล้วตัดสินใจกลับมายกเลิกใบเหลืองที่ให้ในตอนแรกเปลี่ยนเป็นควักใบแดงให้แก่ หัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด ทันที ถัดจากนั้น 5 นาที มาร์ติน กาเซเรซ แนวรับของเจ้าถิ่นส่งบอลเข้าประตูจากจังหวะลูกเตะมุม ทว่าเจ้าตัวไปยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าเสียก่อน ทำให้พลาดได้ประตูตีไข่แตก
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อุรุกวัย พยายามจะทำประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมา แต่ก็ยังไม่ผ่านแนวรับของ บราซิล หมดเวลาการแข่งขัน ทัพแซมบ้า บุกเอาชนะ อุรุกวัย 2-0 เก็บเพิ่มอีก 3 แต้ม รั้งเป็นจ่าฝูงแข่ง 4 นัด มี 12 คะแนน ขณะที่ ทีมจอมโหด แข่ง 4 นัด ชนะ 2 แพ้ 2 มี 6 คะแนน สำหรับเกมนัดต่อไปของ บราซิล จะออกไปเยือน โคลอมเบีย ในวันที่ 26 มีนาคม ส่วน อุรุกวัย จะทำศึกหนักเยือนถิ่น 'ฟ้า-ขาว' อาร์เจนติน่า ในวันเดียวกัน
hoekstraspecialty.com
|