[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
wkk3.ac.th
[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
   
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี โจเซป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม ต้องรับมือ  VIEW : 393    
โดย 8357

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 572
ตอบแล้ว :
ระดับ : 19
Exp : 39%
ออฟไลน์ :
IP : xxx

 
เมื่อ : พฤหัสบดี ที่ 10 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2563 เวลา 00:07:38    ปักหมุดและแบ่งปัน

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้เป็นวันที่จะมีโปรแกรมใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี โจเซป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม ต้องรับมือกับ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์
โดยนอกจากเป็นการดวลกึ๋นของ 2 กุนซือชั้นนำแล้วนั้น มันยังเป็นการดวลกันของแชมป์เก่า (ลิเวอร์พูล) กับรองแชมป์เก่า (แมนฯ ซิตี้) ด้วย
ถึงแม้ว่าตอนนี้ผลงานในลีกของ ลิเวอร์พูล จะดีกว่า แมนฯ ซิตี้ ในระดับหนึ่ง จากการที่ หงส์แดง มีคะแนนมากกว่า 5 แต้ม แต่หลายคนก็ยังมองว่านี่จะเป็นเกมที่สนุกระดับ 5 ดาวอยู่ และตั้งตารอดูว่าทั้ง 2 ทีมที่ชอบเล่นเกมบุกเป็นหลักจะทำประตูรวมกันได้กี่ลูก
ทั้งนี้ ด้วยความที่ทั้ง 2 ทีมต่างก็มีนักเตะชั้นยอดอยู่ในทีมหลายคนทั้งสมัยปัจจุบันและอดีต ทำให้มีหลายคนที่ทำประตูได้แบบเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งวันนี้เราจะมานำเสนอ 3 นักเตะที่สามารถทำประตูได้มากที่สุดในการดวลกันระหว่างทั้งคู่ โดยจะนับตั้งแต่ฤดูกาล 1992-93 เป็นต้นมา หลังจากมันเป็นซีซั่นแรกที่ลีกสูงสุดของอังกฤษเปลี่ยนมาใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก
3. สตีเว่น เจอร์ราร์ด
อดีตยอดกองกลางขวัญใจของเหล่า เดอะ ค็อปถือเป็นหนึ่งในฝันร้ายของ แมนฯ ซิตี้ เวลาที่ทั้ง 2 ทีมโคจรมาพบกัน โดยเขายิงได้ 6 ประตู มากกว่ากองหน้าระดับ ไมเคิ่ล โอเว่น ที่ทำได้ 5 ลูกด้วยซ้ำ ซึ่งนับเป็นผลงานที่น่าประทับใจเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าเขาเป็นมิดฟิลด์ สำหรับ 6 ประตูที่ โอเว่น ทำได้ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมนี้โคจรมาเจอกัน
เกิดขึ้นในเกมลีก 4 ลูก และเกม ลีก คัพ (คาราบาว คัพ ในปัจจุบัน) 2 ประตู ซึ่งทั้ง 2 ประตูในเกม ลีก คัพ นั้น เกิดขึ้นในรอบรองชนะเลิศของฤดูกาล 2011-12 แถมยังเป็นการยิงนัดละ 1 ลูกด้วย โดยในนัดแรกมันเป็นประตูชัยที่ทำให้ทีมชนะ 1-0 ส่วนนัดสองเขายิงตีเสมอให้ทีม 1-1 ก่อนที่สกอร์จะจบลงด้วยการเจ๊ากัน 2-2 การทำประตู 2 ลูกนั้นช่วยให้ ลิเวอร์พูล เข้ารอบชิงชนะเลิศได้ ก่อนที่จะได้แชมป์ไปครองใน
บั้นปลาย
ขณะที่ 4 ประตูในลีกที่เขาทำได้นั้นมันมีเกร็ดที่น่าสนใจอยู่ 1 อย่าง นั่นคือ 3 จาก 4 ลูกนั้นเป็นประตูชัยที่ช่วยให้ทีมได้ 3 คะแนนไปครอง (ชนะ 2-1 ในฤดูกาล 2003-04 กับ 2004-05 และเชือด 1-0 ในซีซั่น 2006-07) ส่วนอีก 1 ประตูในลีกเกิดขึ้นในซีซั่น 2012-13 โดยตอนนั้นเกมจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2
2. เซร์คิโอ อเกวโร่
นับเป็นข่าวร้ายอย่างมากของ กวาร์ดิโอล่า ที่ในวันอาทิตย์นี้นั้นเขาจะอดใช้งาน อเกวโร่ เพราะว่าดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์สามารถทำได้ถึง 7 ประตูในการดวลกันระหว่างทั้งสองทีม ทำให้เขาถือเป็นนักเตะ แมนฯ ซิตี้ ที่สามารถยิงใส่ ลิเวอร์พูล ได้มากที่สุดตลอดกาลด้วย
สำหรับ 7 ประตูที่ เอล กุน ทำได้ในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ เจอกับ ลิเวอร์พูล เกิดขึ้นในลีกทั้งหมด โดยเป็นการทำนัดละ 1 ลูกด้วย ประกอบด้วยเกมที่ช่วยให้ทีมชนะ 3-0 ในฤดูกาล 2011-12, นัดที่เจ๊ากัน 2-2 ในซีซั่น 2012-13, นัดที่ แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-1 ในซีซั่น 2014-15, เกมที่ทีมของเขาแพ้ ลิเวอร์พูล 1-4 ในฤดูกาล 2015-16, เกมในฤดูกาล 2016-17 ที่เจ๊ากัน 1-1, นัดที่ แมนฯ ซิตี้ ชนะขาดลอย 5-0 ในฤดูกาล 2017-18 และเกมที่เฉือน หงส์แดง 2-1 ในซีซั่น 2018-19