[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
wkk3.ac.th
[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
   
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
English Chinese (Simplified) Chinese (Traditional) French German Italian Japanese Korean Portuguese Russian Spanish Vietnamese Thai     
ค้นหา   


  

   เว็บบอร์ด >> ห้องนั่งเล่น >>
ใครว่าแย่ สถิติชี้ชัด ลิเวอร์พูล ไร้ ฟาน ไดค์ ไม่ขาดใจในเกมรับ  VIEW : 423    
โดย คุ้กกี้

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 293
ตอบแล้ว :
ระดับ : 13
Exp : 85%
ออฟไลน์ :
IP : xxx

 
เมื่อ : พุธ ที่ 9 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2563 เวลา 15:45:07    ปักหมุดและแบ่งปัน

การขาดหายไปของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ได้เคยสร้างความกังวลใจให้เหล่าสาวก "เดอะค็อป" เป็นอย่างมาก เพราะนี่คือหัวใจในแนวรับของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มาตลอด หลังจากที่เจอโรคเดี้ยงเล่นงานจากเกมที่บุกไปเสมอ "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน 2-2 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา

แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ระหว่งการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บตรงบริเวณหัวเข่า และกลับมาฟื้นฟูสภาพร่างกายได้บ้างแล้ว แต่ยังไม่มีกำหนดการกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อไร โดยเคยมีการคาดเอาไว้ว่าอาจจะได้คัมแบ็กคืนสู่สังเวียนแข้งในช่วงท้ายฤดูกาลนี้เลยเสียด้วยซ้ำ

แต่ดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล อาจจะเริ่มเบาใจได้ในระดับหนึ่ง หากดูจากสถิติเรื่องของเกมรับในช่วงหลังจากที่ไร้ ฟาน ไดค์ แม้จะประสบปัญหานักเตะผลัดกันได้รับบาดเจ็บแบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะพวกผู้เล่นในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง ซึ่งรวมถึง โจ โกเมซ กองหลังทีมชาติอังกฤษที่เจอโรคเดี้ยงเล่นงานจนต้องพักยาวด้วยเช่นกัน ทว่า "หงส์แดง" ยังคงมีแนวรับที่ไว้วางใจได้อยู่ ถ้าวัดจากจำนวนตัวเลขที่เสียประตูไปไม่มากนัก ซึ่งมาจากผลงานของเหล่าพ่อค้าแข้งที่มีให้เลือกใช้งานแบบจำกัดนั่นเอง

ทั้งนี้ "หงส์แดง" ต้องลงสนามแบบไร้ ฟาน ไดค์ มาแล้วถึง 11 นัดในทุกรายการจนถึงเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็นในศึกพรีเมียร์ลีก 6 นัด รวมถึงในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 5 เกม ปรากฎว่า ลิเวอร์พูล เสียประตูไปเพียงแค่ 6 ลูกเท่านั้น และสามารถเก็บ "คลีนชีท" แบบไม่เสียประตูได้ถึง 6 เกมเลยด้วย แม้จะต้องถอย ฟาบินโญ มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลให้ขยับลงมาช่วยยืนเป็นกองหลังจำเป็นอยู่หลายเกมเหมือนกัน แต่นักเตะเลือดแซมบ้ากลับสามารถคุมเกมได้อย่างเหนียวแน่น เพราะเคยยืนเล่นตำแหน่งนี้ในช่วงสมัยที่ค้าแข้งกับ โมนาโก ทีมเก่าในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส มาก่อน

สำหรับ 6 นัดที่ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บ "คลีนชีท" แบ่งออกเป็น 2 เกมในศึก พรีเมียร์ลีก นั่นก็คือ นัดที่เปิดบ้านไล่ถล่ม "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ 3-0 และนัดล่าสุดที่เฝ้ารังไล่ต้อน "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-0 ส่วนอีก 4 เกมที่เหลือคือในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไล่ตั้งแต่เกมที่บุกไปเฉือนชนะ อาแจ๊กซ์ 1-0, เปิดบ้านชนะ มิดทิลแลนด์ 2-0, บุกไปถล่ม อตาลันต้า 5-0 รวมถึงเกมที่เปิดบ้านเชือด อาแจ๊กซ์ 1-0 นอกจากนี้ "หงส์แดง" ยังพบกับคามพ่ายแพ้ไปเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น นับตั้งแต่ ฟาน ไดค์ เจอโรคเดี้ยงเล่นงานจนต้องพักยาว นั่นก็คือ เกมสโมสรยุโรปถ้วยใบใหญ่สุดของทวีปในนัดที่แพ้ อตาลันต้า คาบ้าน 0-2

แม้จะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ ในเรื่องของการจัดแนวรับลงสนามแต่ละเกม แต่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ขาดใจในยามที่ต้องไร้ ฟาน ไดค์ เหมือนอย่างที่หลายคนเคยคาดการณ์เอาไว้ เพราะพวกกองหลังที่มีชื่อชั้นเป็นรองอย่าง โจเอล มาติป, แนท ฟิลิปป์ส รวมถึง รีส์ วิลเลียมส์ ยังคงพร้อมร่วมใจกันช่วยยืนคุมแดนหลังเพื่อ "หงส์แดง" ได้เป็นอย่างดีเลย

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ  ได้ที่   dogtrainerfortmyersbeach.com