ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่งสำหรับการบุกไปเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ข่าวร้ายก็คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับบาดเจ็บ และต้องลุ้นหนักว่าจะเจ็บหนักมากแค่ไหน เกมนี้ "หงส์แดง" มาแปลกเมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งแนวรุกลงสนามพร้อมกับ 4 คน ซึ่งก็ทำให้เกมรับของเจ้าบ้านปั่นป่วนในช่วงต้นครึ่งแรก แต่กระนั้นในช่วงครึ่งหลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับหมากมาต่อกรได้ดีขึ้น และทำให้ "เรือใบสีฟ้า" สร้างโอกาสทำประตูได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้อยู่ที่ท้ายครึ่งแรก จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดบอลไปโดนแขน โจ โกเมซ ก่อนที่ท่านเปาจะเช็ควีเออาร์และให้เป็นจุดโทษ แต่น่าเสียดายที่ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม ดันยิงออกเสาหน้าตาเฉย ซึ่งหากจังหวะนี้เป็นประตู ครึ่งหลังรูปเกมอาจจะเปลี่ยนไป และ "หงส์แดง" คงกดดันหนักยิ่งกว่านี้ สำหรับการจบแบบเสมอกัน 1-1 แม้จะทำให้ "เดอะ เร้ดส์" หล่นมาอยู่อันดับ 3 มี 17 คะแนนก็ตาม แต่พวกเขาก็ตามหลัง เลสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น และหลังพักเบรกทีมชาติทั้งสองทีมมีคิวดวลกันที่แอนฟิลด์ งานนี้เดี๋ยวจะได้รู้กันว่าผลจะออกมาหมู่หรือจ่า 1. คล็อปป์ ใจเด็ดใช้แผนเกมบุกเยือน แมนฯ ซิตี้ ก่อนแมตช์สำคัญนี้มีกระแสข่าวออกมาตลอดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ อาจตัดสินใจใช้ ดีโอโก้ โชต้า ลงเล่นตัวจริงร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ เนื่องจากทั้งสามคนนี้กำลังเล่นกันได้อย่างเข้าขา ขณะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะทำหน้าเป็นยางอะไหล่อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" รวมทั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องอึ้ง เมื่อเขาตัดสินใจนำแนวรุกที่ดีที่สุดของทีมลงเล่นพร้อมกัน ด้วยระบบ 4-2-4 ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างมาก ในการวางหมากเน้นเกมบุกเพื่อสู้กับทีมที่แข็งแกร่งอย่าง "เรือใบสีฟ้า" แถมยังเล่นในเอติฮัด สเตเดี้ยม ซะด้วย การเสี่ยงครั้งนี้ต้องบอกว่าได้ผลในช่วงต้นเกม เมื่อ "หงส์แดง" เปิดฉากไล่บี้ แมนฯ ซิตี้ ตลอด และสร้างโอกาสได้เหนือกว่าเจ้าบ้านหลายครั้ง จนกระทั่งมาได้จุดโทษ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สังหารไม่เหลือซาก ฉะนั้นระบบนี้ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ตั้งรับไม่ถูก กว่าจะมาตั้งสติได้ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงของครึ่งแรก ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าการส่งแนวรุก 4 ประสานได้แก่ มาเน่, ฟีร์มีโน่, โม ซาลาห์ และ โชต้า ลงสนามพร้อมกัน เป็นระบบที่สามารถจัดการฉีกจุดอ่อนของ แมนฯ ซิตี้ ได้ขาดกระจุย งานนี้บรรดาแฟนบอล "หงส์แดง" อาจมีลุ้นได้เห็นพวกเขาลงสนามพร้อมกันอีกในอนาคต 2. โรคเดี้ยงบุกเยือน "หงส์แดง" ต่อเนื่อง หนึ่งในปัญหาใหญ่สำหรับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้ก็คือนักเตะตัวหลักที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า และพักนานหลายเดือน ซึ่งส่งผลกระทบกับทีมอย่างมาก โรคเดี้ยงกำลังคุกคาม ลิเวอร์พูล อย่างหนัก แต่เดชะบุญที่ โฌแอล มาติป เรียกความฟิตลงสนามได้ในเกมเยือน แมนฯ ซิตี้ ได้ อย่างไรก็ตามเรื่องที่เหล่าสาวกลิเวอร์พูลกลัวที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับบาดเจ็บหลังจากช่วยทีมไปได้ 1 ชั่วโมงกว่าๆ อาการบาดเจ็บของนักเตะคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อน่อง นั่นทำให้เจ้าตัวอดช่วยทีมชาติอังกฤษในช่วงพักเบรกทีมชาติไปโดยปริยาย แต่ที่น่ากังวลใจก็คือ "เจ้าหนูเทรนต์" ได้รับบาดเจ็บหนักมากแค่ไหน และต้องพักนานกี่สัปดาห์ ซึ่งเรื่องนี้ คล็อปป์ ยืนยันแล้วว่าต้องรอผลการสแกนในวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.นี้
birthdaycrunch.com
|