ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทุกๆ วงการ โดยเฉพาะในวงการฟุตบอลซึ่งสิ่งนี้ทำให้หลายๆ สโมสรต้องคิดอย่างรอบคอบในการเซ็นสัญญากับผู้เล่นซักคนในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่สำหรับ เชลซี ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ยี่หระกับการใช้เงิน เพราะตอนนี้ทีมควักกระเป๋าเสริมแกร่งไปแล้วกว่า 211 ล้านปอนด์ (ราว 8,018 ล้านบาท)
หลังจากที่จบฤดูกาล 2019/2020 ในอันดับ 4 แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม ตัดสินใจเคาะประตูห้องบอร์ดบริหารเพื่อหวังที่จะได้การสนับสนุนทางการเงินในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ เพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับ "สิงห์บลูส์" สำหรับการเบียดแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก กับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ย้อนกลับไปเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา เชลซี โดน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษห้ามซื้อผู้เล่นเข้ามาเสริมทัพช่วงตลาดเปิดซัมเมอร์ที่ผ่านมาและช่วงเดือนมกราคม 2020 อย่างไรก็ตาม ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) ตัดสินลดโทษแบนเสริมทัพ ทำให้ทีมสามารถซื้อผู้เล่นมาร่วมทัพในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมที่ผ่านมา
"สิงห์บลูส์" ประเดิมการปลดแอกด้วยการเซ็นสัญญาล่วงหน้ากับ ฮาคิม ซิเย็ค ที่ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ (ราว 1,368 ล้านบาท) จากนั้นก็สวมบทสิงห์ปืนไวคว้าตัว ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกฟอร์มแรงจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 54 ล้านปอนด์ (ราว 2,052 ล้านบาท) ตัดหน้า ลิเวอร์พูล ช่วงต้นซัมเมอร์นี้
จากนั้นทีมก็เติมเต็มเกมรับด้วยการคว้าตัว เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายฟอร์มแรง เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังย้ายจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ (ราว 1,900 ล้านบาท) รายล่าสุดเป็นคิวของ ไค ฮาแวร์ตซ์ กองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงเลือดเบียร์ มาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ด้วยสนนราคา 71 ล้านปอนด์ (ราว 2,911 ล้านบาท)
ทำให้ยอดเงินรวม ณ เวลานี้ เชลซี จ่ายไปแล้วกว่า 211 ล้านปอนด์ และยังมีทีท่าว่าจะไม่หยุดแค่นั้น เพราะเพิ่งมีรายงานว่าพวกเขาเตรียมยื่นข้อเสนอคว้าตัว เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูของ แรนส์ ภายในสัปดาห์นี้ โดยค่าตัวน่าจะประมาณ 18 ล้านปอนด์ (ราว 684 ล้านบาท)
แน่นอนว่าบรรดาแฟนบอลสโมสรอื่นๆ คงรู้สึกอิจฉาตาร้อนที่เห็น เชลซี ใช้เงินเป็นว่าเล่นในการเสริมแกร่ง ทั้งๆ ที่ทีมอื่นๆ ต้องประสบปัญหาด้านการเงินจากสถานการณ์เชื้อไวรัสมรณะแพร่ระบาด แต่พวกเขากลับทำเรื่องสวนทางอย่างเห็นได้ชัด
ย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2018/2019 เชลซี มีสถิติใช้จ่ายเงินไปจำนวน 120 ล้านปอนด์ (ราว 4,560 ล้านบาท) โดยตัวเลขผลประกอบการประจำปีก่อนหักภาษีพวกเขาขาดทุนถึง 101.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,868 ล้านบาท) แต่ด้วยการโดนโทษแบนห้ามซื้อนักเตะ 2 ช่วงเวลาในฤดูกาล 2019/2020 ถือเป็นโชคดีในโชคร้ายของ "สิงห์บลูส์"
เพราะการโดนสั่งห้ามเสริมทัพทำให้ เชลซี สามารถฟื้นสภาพคล่องทางการเงินได้ในปีถัดมา โดยหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้สโมสรมีสถานะทางการเงินที่ดียิ่งขึ้นมาจากการขาย เอแด็น อาซาร์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ให้กับ เรอัล มาดริด ประมาณ 100 ล้านปอนด์ (ราว 3,800 ล้านบาท) และอาจจะสูงถึง 140 ล้านปอนด์ (ราว 5,320 ล้านบาท) เลยทีเดียว
เพิ่มเติม : newfaneschool.net
|