เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล เผยความรู้สึกที่ยังเสียดายไม่หายเนื่องจากพ่อบังเกิดเกล้าไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จของตนในการทำงานเป็นโค้ช เนื่องจากท่านจากไปแล้ว เชื่อท่านอยู่บนสวรรค์และมองเห็นความสำเร็จของลูกชายหัวดื้อคนนี้คงมีความสุขที่สุด
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ลิเวอร์พูล ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงเปิดเผยความรู้สึกว่า ยังเสียใจที่ นอร์เบิร์ต บิดาบังเกิดเกล้าไม่มีโอกาสได้เห็นตนประสบความสำเร็จในฐานะผู้จัดการทีม โดยเฉพาะการนำ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ "หงส์แดง" ยิ่งใหญ่
พ่อของคล็อปป์ ซึ่งเสียชีวิตไปได้ประมาณ 4 เดือนก่อนที่ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช จะรับงานโค้ชครั้งแรกกับไมนซ์ เมื่อปี 2001 โดย คล็อปป์ ซึ่งมีชื่อกลางว่า นอร์เบิร์ต เหมือนผู้ให้กำเนิด ยอมรับว่าตนใช้ชีวิตตามความฝันของปะป๋ามาตลอด เพราะท่านอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่คุณปู่ไม่ยอมให้ทำแบบนั้น
เหตุผลที่ปู่ของคล็อปป์ ห้ามปรามลูกชายไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเกมลูกหนังเนื่องจากมองว่าการเป็นนักฟุตบอลไม่ใช้อาชีพที่เหมาะสมสำหรับเลี้ยงดูครอบครัวได้ ทั้งๆ ที่ในเวลานั้น ไกเซอร์สเลาเทิร์น ได้ยื่นสัญญานักเตะอาชีพให้กับ นอร์เบิร์ต ซึ่งประมาณอายุ 18 ปี
สุดท้ายแล้ว นอร์เบิร์ต ได้ส่งทอดแรงบันดาลใจในเกมลูกหนังให้กับ คล็อปป์ โดยเขาคอยฝึกสอนศาสตร์ฟุตบอลให้กับลูกชาวหัวแก้วหัวแหวนสมัยที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่แบล็ค ฟอเรสต์ สำหรับเรื่องนี้ คล็อปป์ เปิดใจสมัยวัยเยาว์ว่า "แม่ของผมเป็นแบบอย่างแม่ชาวแบล็ก ฟอเรสต์ ที่คอยดูแลเอาใจใส่ให้ความรัก และเต็มไปด้วยความซื่อสัตย์ และศรัทธา"
"เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น คุณจะกลับมาบ้าน และท่านก็จะแสดงความรักต่อคุณ โชคร้ายจริงๆ เมื่อผมพูดถึงพ่อ และผมได้อ่านเรื่องราวต่างๆ มันไม่ค่อยยุติธรรมที่ได้ยินเรื่องราวแบบนั้น ความสัมพันธ์นี้มันมีพื้นฐานมาจากความเคารพ ท่านเป็นนักฟุตบอลที่น่าเหลือเชื่อ ไกเซอร์สเลาเทิร์นเป็นสโมสรใหญ่ในเยอรมนี และพวกเขายื่นข้อเสนอมาให้ท่านตอนอายุ 18 ปี" "แต่คุณปู่ของผมบอกว่า -ลูกไม่ควรไปเล่นฟุตบอล ลูกต้องเรียนรู้บางสิ่งที่มันจริงจัง- และนั่นทำให้ท่านไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเล่นกับพวกเขา ท่านต้องการให้ผมเติมเต็มความฝันของท่าน ผมรักทุกอย่างที่ท่านอยากให้ผมทำ แต่หลังจากนั้นคุณอยากจะทำบางอย่าง และสิ่งนั้นพ่อของคุณซึ่งเป็นโค้ชให้กับคุณไม่พอใจกับการเลือกของคุณ"
"ท่านมักจะวิจารณ์มากกว่าชื่นชมในสิ่งที่คุณทำ แต่นั่นมันอยู่ในช่วงยุคของท่าน ตอนที่ผมบอกกับพ่อว่าผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ท่านตอบว่า -ได้ อยากเรียนก็เรียน !- ท่านไม่คิดว่าผมจะสามารถทำได้ แต่ผมเป็นลูกคนแรกของครอบครัวที่ได้เรียนหนังสือ ดังนั้นท่านก็เลยยอมตามใจ"
"ผมรู้ถึงสิ่งที่ท่านอยากให้ผมทำ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในวงการกีฬา เรื่องที่น่าผิดหวังที่สุดสำหรับเรื่องราวเหล่านี้ก็คือท่านไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปตอนที่ผมก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีม พ่อของผมเสียชีวิตไปเกือบเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้เมื่อผมมองดูกระจก ผมถึงกับช็อกเพราะผมดูเหมือนกับพ่อมากๆ"
"ตอนนี้ผมคงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมกับท่านเพราะผมอายุมากแล้ว และกล้าพอที่จะพูดในสิ่งที่ผมอยากพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมาะสม ตอนนี้เราคงมีการสนทนากันแบบสบายๆ กับทุกๆ เรื่องที่เกิดขึ้น แต่โชคร้ายที่เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้แล้ว"
"แต่ผมเป็นคริสเตียน ผมเชื่อว่าพระเจ้าทรงอยู่บนสวรรค์ และนั่นเป็นสถานที่ที่ท่านอยู่ ถ้าท่านได้มองเห็นชีวิตของผมว่าเป็นยังไงหลังจากที่ผมทำงานเป็นผู้จัดการทีม ผมคิดว่าท่านคงมีความสุขที่สุด" คล็อปป์ เปิดใจผ่านหนังสารคดี "The End of the Storm"
เพิ่มเติม : sos-diagnostiqueur.com
|