ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21 

 คืนวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน 2020

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 อาร์เซนอล

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

1. จุดบอด 4-3-1-2 ของ ปีศาจแดง : ป็อกบา

โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดทัพด้วยรูปแบบการเล่นเดียวกับที่เขาใช้ในเกมถล่มเอาชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาโดย ปอล ป็อกบา ทำหน้าที่ในกราบซ้ายของแผงมิดฟิลด์ไดมอนด์

ทว่า อาร์เซนอล ไม่ใช่ ไลป์ซิก และการทำหน้าที่ในเกมรับของ ป็อกบา อยู่ในเครื่องหมายคำถามอีกครั้งในนัดนี้เมื่อการยืนตำแหน่งเพื่อป้องกันของเจ้าตัวมีปัญหาอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการไม่กระตือรือล้นอย่างควรจะเป็นเมื่อตกเป็นฝ่ายไล่บอลจากคู่แข่ง กระทั่งสมาธิในเกมรับที่ไม่มากพอจนเป็นเหตุให้ เอคตอร์ เบเยริน โฉบถึงบอลก่อนในกรอบเขตโทษจนกลายเป็นเขาไปเตะแบ็คขวาทีมชาติ สเปน ของ เดอะกันเนอร์ส เป็นเหตุให้เสียลูกจุดโทษในที่สุด

2. จุดบอด 4-3-1-2 ของ ปีศาจแดง : ฟูลแบ็คกับการเติมเกมรุก

หลังจากที่ โซลชา ทำให้เราตื่นตาตื่นใจกับ อเล็กซ์ เตลเลส ในบทบาทวิงแบ็คฝั่งซ้ายได้อยู่พักใหญ่ จุดอ่อนเดิมๆ ของพวกเขาก็กลับมาให้เห็นอีกครั้งเมื่อต้องใช้งาน อารอน วาน-บิสซาก้า และ ลุค ชอว์ ที่ฟูลแบ็คทั้ง 2 ฝั่ง

แม้ทั้ง 2 คนจะทำได้น่าพอใจในระดับหนึ่งกับเกมรับวันนี้แต่เมื่อทีมตกอยู่ในสถานการณ์ต้องการประตูแล้วทั้งคู่ไม่สามารถงัดการครอสบอลที่สามารถหวังผลได้ให้เห็น มีเพียงการเปิดบอลลูกฟรีคิกของ ชอว์ ให้ แม็คไกวร์ ในครึ่งหลังเพียงจังหวะเดียวเท่านั้นที่พอจะทำให้ เร้ดเดวิลส์ มีลุ้นอยู่บ้าง

3. ปาร์เตย์ ยกระดับ ปืนใหญ่ อีกขั้น

ดาวเตะทีมชาติ กานา วัย 27 ปีเจ้าของค่าตัว 45 ล้านปอนด์ที่ อาร์เซนอล จ่ายเป็นค่าฉีกสัญญาให้กับ แอตเลติโก มาดริด ทำผลงานในระดับที่สร้างความแตกต่างให้กับทีมได้อีกครั้งแม้จะเป็นการลงสนามนัดที่ 4 ของเจ้าตัวกับต้นสังกัดใหม่เท่านั้น

ไม่เพียงแต่ ปาร์เตย์ จะเป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องทั้งรับและรุก เจ้าตัวยังทำทุกอย่างได้เนียนตาไล่เรียงตั้งแต่การยืนตำแหน่ง การตัดสินใจเข้าสกัด การเบียดปะทะ ไปจนถึงการพลิกบอลเปลี่ยนจากรับเป็นรุก วิสัยทัศน์ในการผ่านบอล และการยิงไกลที่หนักหน่วง

4. สัญญาณที่ดีของ ปืนโต

ชัยชนะของ อาร์เซนอล เหนือ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมนี้ทำให้พวกเขาลบสถิติไร้ชัยในเกมเยือนทีมบิ๊กซิกซ์บนเวที พรีเมียร์ลีก 29 นัดติดต่อกันได้สำเร็จ (เสมอ 10 แพ้ 19) นับตั้งแต่ที่ เดอะกันเนอร์ส บุกไปเข่น แมนฯ ซิตี้ 2-0 ในเดือนมกราคม 2015

5. วิกฤต ปีศาจแดง ของ โซลชา

แม้รูปเกมของ ผีแดง จะแสดงให้เห็นสัญญาณที่ดีอยู่บ้างโดยเฉพาะความกระตือรือล้นที่ลูกทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา แสดงให้เห็นในช่วงต้นครึ่งหลังแต่การไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสให้กลายเป็นประตูจนจบด้วยความพ่ายแพ้ทำให้พวกเขาจมอยู่ในอันดับที่ 15 บนตารางคะแนนหลังผ่าน 6 เกมแรกของฤดูกาล

นอกจากนี้ยังเป็นการไร้ชัยใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด 4 เกมแรกของฤดูกาลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซัน 1972/73 ที่ซึ่งพวกเขาจบด้วยอันดับที่ 18 ในฤดูกาลดังกล่าว

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ  ได้ที่  guerrillamarketinggoesgreen.com