นาทีที่ 31 ฝรั่งเศส ทิ้งโอกาสทองที่จะขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ กระดกบอลมาให้ คาริม เบนเซม่า วิ่งมาซัดโล่งๆหน้าปากประตูแต่บอลปลิ้นหลังเท้าออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตามช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 45+2 กลายเป็น ฮังการี ที่ทำเอาแฟนๆในปุสกัสอารีน่ากระหึ่มขึ้นมา เมื่อมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อัตติล่า ฟิโอล่า ได้บอลก่อนกระชากเข้าเขตโทษหลุดไปซัดเน้นๆส่งบอลเสียบเสาแรกเข้าไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
มูลค่าสโมสรฟุตบอล (1)
ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส เดินหน้าบุกใส่ทันที นาที 51 ปอล ป็อกบา ลองส่องนอกกรอบด้วยขวาแต่จังหวะสุดท้ายไปลื่นบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกไป
นาทีที่ 59 ฝรั่งเศส หวิดตามตีเสมอแบบหวุดหวิด อุสมาน เดมเบเล่ ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองล็อกเข้าขวาแล้วยิงซัดเต็มข้อบอลพุ่งไปชนเสาออกไป
จนกระทั่งนาทีที่ 66 ความพยายามของทัพ "ตราไก่" ก็มาสัมฤทธิ์ผลไล่ตามตีเสมอ 1-1 วิลลี่ ออร์บาน สกัดบอลไม่ขาดไปเข้าทางของ อ็องตวน กรีซมันน์ ได้ซัดเน้นๆหน้าปากประตูส่งบอลตุงตาข่าย
ฝรั่งเศส ยังไล่บดใส่อยู่ฝ่ายเดียว และมาได้ลุ้นพลิกแซงนำ ในนาทีที่ 82 จากลูกยิงของ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดไปซัดในเขตโทษแต่ ปีเตอร์ กูลัคซี่ ปัดทิ้งไปได้
หลังจากนั้นแม้ ฝรั่งเศส จะขึงบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียวแต่สุดท้ายทำประตูเพิ่มไม่ได้ จบเกม ฝรั่งเศส เสมอ ฮังการี 1-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 แต้มขึ้นมารั้งเป็นจ่าฝูงของกลุ่มเอฟ รอลุ้นเข้ารอบเกมสุดท้ายกับ โปรตุเกส ส่วน ฮังการี มี 3 แต้มรั้งที่ 3 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ฮังการี (3-5-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - เอ็นเดร บ็อตก้า, วิลลี่ ออร์บาน, อัตติล่า ซาไล - อดัม นากี - ลาสซ์โล ไคลน์ไฮส์เลอร์, อันดราส เชเฟอร์ (ทามาส เซรี่ น.75), อัตติล่า ฟิโอล่า, โลอิค เนโก้ - อดัม ซาไล (เนมานย่า นิโกลิกส์ น.26), โรลันด์ ซัลไล
ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : อูโก้ โยริส - แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, เปรสแนล คิมเป็มเบ้, ลูก้าส์ ดีญ - ปอล ป็อกบา (โกล็องแตง โตลิสโซ่ น.76), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อาเดรียง ราบิโอต์ (อุสมาน เดมเบเล่ น.66) - อ็องตวน กรีซมันน์ - คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, คาริม เบนเซม่า (โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น.76)
musicasailing.com
|