เมสซี่ กับ โรนัลโด้ ได้รับการยกย่องว่าเป็น 2 นักเตะที่เก่งที่สุดของวงการลูกหนังตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาก็คู่ควรกับการได้รับยศนั้น หลังจากที่ทั้งคู่ต่างก็ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนเหมือนกับว่าไม่ใช่คนทั่วไป แถมยังได้รางวัลอันทรงเกียรติไปครองมากมาย โดยเฉพาะรางวัล บัลลง ดอร์ ที่พวกเขาได้ไปครองรวมกันถึง 11 สมัย อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตอนนี้ เมสซี่ กับ โรนัลโด้ มีอายุ 33 ปีกับ 36 ปีตามลำดับ ทำให้พวกเขาไม่ปราดเปรียวเหมืนเก่า ใช่ สัญชาตญาณของพวกเขายังมีอยูู่ แต่บางครั้งร่างกายมันก็ไม่สามารถขยับเหมือนกับแต่ก่อนได้แล้ว ในทางตรงกันข้าม มันก็เหมือนกับว่าจะมีคู่อริคู่ใหม่ที่มารับบทชิงชัยความเป็นหนึ่งต่อจากพวกเขาเหมือนกัน นั่นคือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กับ เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ หัวหอกชาวฝรั่งเศสถูกจับตามองมาตั้งแต่สมัยที่พา อาแอส โมนาโก คว้าแชมป์ ลีก เอิง มาครองได้เมื่อฤดูกาล 2016-17 แล้ว จากการที่ตอนนั้นทำประตูได้เยอะพอตัว ก่อนที่เขาจะมาสานต่อฟอร์มโหดได้ที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ขณะที่ ฮาแลนด์ ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ได้มีดีกับการเล่นที่ออสเตรียเพียงอย่างเดียว เพราะพอมาอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เขาก็ยังยิงได้เรื่อยๆ
ล่าสุด เอ็มบั๊ปเป้ เพิ่งทำแฮตทริกได้จนช่วยให้ ปารีสฯ บุกไปชนะ บาร์เซโลน่า 4-1 ได้ถึง คัมป์ นู ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดเแรก เมื่อวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ที่าผ่านมา ขณะที่ ฮาแลนด์ ก็ไม่ยอมน้อยหน้าด้วยการทำ 2 ลูกในวันต่อมาในเกมที่ ดอร์ทมุนด์ ชนะ เซบีย่า 3-2 และหลังจบเกมเขาก็บอกเองว่าการที่ เอ็มบั๊ปเป้ ทำแฮตทริกได้เมื่อ 1 วันก่อนหน้านั้นเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาอยากโชว์ฟอร์มเก่งออกมาให้ได้เหมือนกัน
ทั้งนี้ หากพิจารณาตามสถิติต่างๆ แล้วนั้น มันก็พอมีแนวโน้มจริงๆ ว่าหลังจากนี้คู่แข่งเบอร์ 1 ในวงการลูกหนังจะเปลี่ยนจาก เมสซี่ vs โรนัลโด้ มาเป็น เอ็มบั๊ปเป้ vs ฮาแลนด์ แล้ว ยกตัวอย่างเช่นหากนับตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 เป็นต้นมา เมสซี่ สามารถทำประตูในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปได้รวม 7 ลูก ขณะที่ โรนัลโด้ ทำไป 8 ประตู ทั้งคู่สู้ เอ็มบั๊ปเป้ ที่ยิงไป 10 ประตูไม่ได้เลย และซีซั่นก่อน เอ็มบั๊ปเป้ ยังพาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ด้วย ส่วนกับ ฮาแลนด์ นั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะตั้งแต่ฤดูกาลก่อนจนถึงซีซั่นนี้เขายิงในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปได้รวมแล้วถึง 18 ประตูด้วยกัน daringinteractive.com