ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก ฤดูกาล 2020-21
รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดแรก
วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564
เรอัล โซเซียดัด 0 - 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม (สนามกลาง)
เรอัล โซเซียดัด จัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม ดาบิด ซิลบา ลงคุมแดนกลางร่วมกับ อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ แนวรุกนำมาโดย มิเกล โอยาร์ซาบัล, อเล็กซานเดอร์ อิซัค และ อัดนาน ยานาไซ ลงสนามพบต้นสังกัดเก่า
ทางฝั่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนี้ไม่มี เอดินสัน คาวานี และ ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค ดีน เฮนเดอร์สัน ได้ลงเฝ้าเสา เอริค ไบญี กลับมาจับคู่ แฮร์รี แม็คไกวร์ แนวรุก บรูโน แฟร์นันด์ส นำทัพโดยมี เมสัน กรีนวู้ด, แดเนียล เจมส์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด
ผลปรากฎว่า ครึ่งแรก ถึงนาทีที่ 27 แมนยูฯ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลเข้าเขตโทษแล้วผู้รักษาประตูกับกองหลังของโซเซียดัดสื่อสารกันไม่ดีออกมาชนกันเอง บอลมาเข้าทาง บรูโน เฟอร์นันเดส ซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมานำ เรอัล โซเซียดัด 1-0
ครึ่งหลัง นาทีทรา 57 แมนยูฯ หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จ่ายบอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ แดเนียล เจมส์ โฉบมาแตะบอลให้ บรูโน เฟอร์นันเดส ปั่นด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม ตอนแรกไลน์แมนเช็กว่า เจมส์ ล้ำหน้าไปก่อน แต่ VAR เช็กว่าไมล้ำแต่อย่างใด ยูไนเต็ด ได้ประตู
จากนั้นนาทีที่ 64 แมนยูฯ นำห่าง 3-0 เฟร็ด จ่ายบอลทะลุขึ้นมาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ควบพาบอลเข้าเขตโทษก่อนยิงผ่าน เข้าไป
ถึงนาทีที่ 90 แมนยูฯ หนีไปไกลเป็น 4-0 จากจังหวะที่ แดเนียล เจมส์ กระชากบอลจากฝั่งขวาเข้ากรอบเขตโทษแล้วซัดเข้าไปตุงตาข่าย
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ เรอัล โซเซียดัด ไป 4-0 กุมความได้เปรียบก่อนเล่นนัดที่ 2 ในวันที่ 25 ก.พ. นี้
บรูโน่เบิ้ล-ดิยัลโล่เปิดตัวชุดใหญ่! แมนยูแทบลอยลำนัดแรก32ทีมยูโรปาลีก
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เรอัล โซเซียดาด : อเล็กซ์ เรมิโร่,โฆเซบา ซัลดัว (อันโดนี่ โกโรซาเบล น.73),โรบิน เล นอร์มานด์,อิกอร์ ซูเบลเดีย,นาโช่ มอนเรอัล,ดาบิด ซิลบา,อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้ (อันแดร์ กูเอวาร่า น.73),มิเกล เมริโน่,อัดนาน ยานาไซ (ปอร์ตูร์ น.80),อเล็กซานเดอร์ อิซัค (อันแดร์ มูรูกูซ่า น.80),มิเกล โอยาร์ซาบัล (จอน บาติสต้า น.86)
แมนฯ ยูไนเต็ด : ดีน เฮนเดอร์สัน, อารอน วาน-บิสซาก้า,เอริค ไบยี่,แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส,สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ (เนมานย่า มาติช น.60),เฟร็ด,เมสัน กรีนวู้ด (อาหมัด ดิยัลโล่ น.83),บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ฆวน มาต้า น.83),ดาเนี่ยล เจมส์,มาร์คัส แรชฟอร์ด (อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.68)
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ ได้ที่ royalstoneind.com
|