พรีเมียร์ลีก เล็งเห็นความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นสำคัญ จึงตัดสินใจจะทดลองใช้กฎการเปลี่ยนตัวใหม่ ในกรณีที่นักเตะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง โดยจะเริ่มใช้ในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจนกระทั่งจบซีซั่นนี้ และอาจจะขยายต่อในฤดูกาลหน้า
พรีเมียร์ลีก ประกาศจะทดลองใช้การเปลี่ยนตัวในกรณีพิเศษในกรณีที่นักฟุตบอลมีปัญหากระทบกระเทือนทางสมองจากการปะทะกันที่ศีรษะ จนไม่
สามารถแข่งต่อไปได้ ก่อนหน้านี้มีเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรงจากกรณีที่ ดาวิด ลุยซ์ กองหลัง อาร์เซน่อล ต้องฝืนเล่นต่อไป หลังจากที่ปะทะกับ ราอูล ฮิเมเนซ หัวหอกวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่ศีรษะซึ่งทำให้รายหลังได้รับบาดเจ็บหนักกะโหลกร้าวจนต้องเข้ารับการผ่าตัด ล่าสุดเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นกับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า จอมทัพลิเวอร์พูล เกมที่ชนะ สเปอร์ส 3-1 ซึ่งเขาหัวแตกและต้องพันผ้าพันแผลลงสนามต่อ
นอกจากนี้อาการบาดเจ็บที่ศีรษะยังส่งผลกระทบในระยะยาวกับอดีตนักฟุตบอลมากมายจนทำให้พวกเขากลายเป็นโรคความจำเสื่อมอย่างเช่นน็อบบี้ สไตล์ส กับ แจ็ค ชาร์ลตัน ซึ่งนำอังกฤษคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 และเสียชีวิตเมื่อปีที่ผ่านมา กลายเป็นโรคความจำเสื่อม ขณะที่ครอบครับของเซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ออกมาเผยว่าเขาป่วยเป็นโรคแบบเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้ทำให้ พรีเมียร์ลีก ตัดสินใจที่จะนำกฎใหม่นี้มาทดลองใช้ โดยจะให้ทุกๆ ทีมสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพิ่ม 2 คนต่อเกมหากนักเตะได้รับการวินิจฉัย หรือต้องสงสัยว่าต้องเข้ารับการรักษาอาการกระทบกระเทือนทางสมองในระหว่างการแข่งขัน โดยการเปลี่ยนตัวแบบนี้จะไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนผู้เล่น 3 คนตามกฎปกติ
สำหรับเกมแรกที่จะทดลองใช้กฎใหม่นี้ก็คือแมตช์ระหว่าง “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลล่า พบ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล โดยกฎนี้จะใช้ไปจนกระทั่งจบฤดูกาล 2020/2021 แต่อาจจะมีการทดลองใช้ต่อในฤดูกาล 2021/2022
ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้ากัปตันทีม “ไอ้ปืนใหญ่” ทำประตูได้ 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่ดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
– มิเกล อาร์เตต้า ลุ้นกลายเป็นผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล คนแรก ที่คว้าชัยรวดในการคุมทีมเจอ “ปีศาจแดง” 3 นัดแรกในลีก บูกาโย่ ซาก้า ปีกดาวรุ่งของ อาร์เซน่อล วัย 19 ปี มีส่วนร่วมกับการทำประตู 7 ลูกในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ (ยิง 5, แอสซิสต์ 2) โดยนักเตะวัยทีน (อายุไม่ถึง 20 ปี) คนสุดท้ายที่ทำได้มากกว่านี้คือ เชส ฟาเบรกาส (อาร์เซน่อล) เมื่อฤดูกาล 2006/07 ที่มีส่วนร่วมถึง 13 ประตู (ยิง 2, แอสซิสต์ 11)
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่แพ้เกมเยือนในลีกมาแล้ว 17 นัดติด (ชนะ เ3, เสมอ 4) ซึ่งเทียบเท่ากับสถิติสูงสุดเดิมของสโมสร
– “ปีศาจแดง” คัมแบ็กจากการมีสกอร์ตามหลัง กลับมาคว้าชัยในเกมลีกได้ 7 นัดฤดูกาลนี้ ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในเกมนอกบ้าน
– 6 จาก 7 ประตูที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ เกิดขึ้นในเกมเยือน นอกจากนี้ แรชฟอร์ด ทำคนเดียว 2 ประตูในการเจอกับ อาร์เซน่อล ครั้งแรกในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 ทว่า 10 เกมหลังจากนั้นที่เจอกับ “ไอ้ปืนใหญ่” เจ้าตัวไม่มีสกอร์เลย
morrowfarrar.com
|
พรีเมียร์ลีก เล็งเห็นความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นสำคัญ จึงตัดสิน
