ขยับทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี เมื่อซีซั่นที่แล้ว พวกเขาสามารถทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ

2019 ได้อย่างเกินคาด แต่ทว่า ทำได้เพียงพระรอง พลาดท่าพ่ายการท่าเรือ 0-1 ในนัดชิงดำ ส่งผลให้ประวัติศาสตร์ของพวกเขา เป็นรองแชมป์บอลถ้วย 3 ครั้ง เป็นอะไรที่ไม่น่าจดจำเท่าไร
ปีนี้ พวกเขาออกสตาร์ทในเกมลีก ได้ยอดเยี่ยมมากๆ ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญพวกเขาจบท็อป 4 ในไทยลีก เลกแรก นั่นเท่ากับว่า ขุนพลราชันมังกรจะได้ตั๋วไปลุยถ้วยเอเชีย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ ครั้งแรกของสโมสร เป็นความภูมิใจของทีมจังหวัดเล็กๆ ที่จะได้ไปเล่นฟุตบอลรายการระดับทวีปเลยทีเดียว

“ความรู้สึกเมื่อคุณรู้ว่า คุณจะได้เล่นในรอบคัดเลือกของเอเชียเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ความฝันเป็นจริงตั้งแต่ลีกต่ำสุดในประเทศไปจนถึงเวทีระดับเอเชีย AFC” นั่นคือความรู้สึก สุดเกินจะบรรยายของ “เสี่ยฟลุ๊ค” ธนวัชญ์ นิติกาญจนา บิ๊กบอสของราชบุรี ที่สร้างทีมมาตั้งแต่ลีกรากหญ้า ที่มาวันนี้ พวกเขากำลังจะไปโลดแล่น ในถ้วยเอเชีย

เป้าหมายแรกของราชบุรีได้สำเร็จไปอันแรก สิ่งที่พวกเขาอยากจะปลดล็อกให้แฟนๆ ราชันมังกร สักครั้งนั่นก็คือ การคว้าโทรฟี่แชมป์ ซึ่งทีมยังเอื้อมไม่ถึงเสียที แม้ว่าจะมีโอกาสมาแล้ว แต่ก็ได้แค่เฉียด ปีนี้ สโลแกนของราชันมังกร พวกเขาใช้คำเท่ๆ ว่า “All in” ถ้าแปลเป็นไทยก็ประมาณว่า “ทุ่มหมดหน้าตัก ทุกหยาดเหงื่อ” เพื่อต่อยอดสร้างประวัติศาสตร์สโมสรให้ได้ โดยพวกเขายังมีลุ้นกับฟุตบอลถ้วยช้าง เอฟเอ คัพ ที่ทะลุมาถึง รอบ 16 ทีมสุดท้าย ปรากฏว่าผลงานใน 2 ฤดูกาลหลังสุด พวกเขาทำได้ดีมากๆ ปี 2018 ตกรอบรองชนะเลิศ ส่วนปี 2019 ทะลุเข้าชิงชนะเลิศ ถ้าว่ากันตามมาตรฐาน ราชบุรีทำได้ตลอดกับฟุตบอลถ้วย ตั้งแต่ขึ้นมาเล่นไทยลีก เมื่อปี 2013 พวกเขาสามรถเข้ารอบลึกได้ตลอดทุกปี ไม่ว่าจะเป็นเอฟเอ คัพ หรือ ลีกคัพ เพียงแต่ว่ายังไปไม่สุด กับเรื่องโทรฟี่แชมป์เท่านั้นเอง ผลงานราชบุรี รอบ 64 ทีม บุกเอาชนะปราจีนบุรี ซิตี้ 3-1 รอบ 32 ทีม เปิดบ้านเอาชนะระยอง เอฟซี 3-1 ทำให้ทะลุ เข้าไปรอบ 16 ทีมสุดท้าย เจอกับสงขลา เอฟซี ทีมจากไทยลีก 3 การขยับปรับเปลี่ยนของราชบุรี ในเลกที่ 2 โดยเฉพาะ ทำเรื่องฮือฮา ได้จักรพันธ์ พรใส ปีกรุกตัวเก๋าของทีมที่มีปัญหาบาดเจ็บ และต้องพักรักษาตัวยาวนั้นให้มาร่วมทำหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนของทีม เช่นเดียวกับ โจเอล ซามี่ อดีตแนวรับร่างยักษ์ทีมชาติคองโก ซึ่งเป็นอดีตนักเตะที่ฝ่ายบริหารทีมดึงตัวกลับเข้ามาทำงานเป็นหนึ่งในทีมสต๊าฟฟ์โค้ชชุดปัจจุบันด้วย “ทีมงานที่มีอยู่ จะช่วยผลักดันและประสานงานเพื่อให้ผลงานของทีมราชบุรี มิตรผลฯ เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้” บทสัมภาษณ์ของ “โค้ชเจี๊ยบ” สมชาย ไม้วิลัย กุนซือใหญ่ออกโรงเชื่อมั่นว่า ราชบุรีมีทีมสต๊าฟที่ยอดเยี่ยม และจะผนึกกำลังทำงานร่วมกับ 2 นักเตะ อย่างจักรพันธ์, ซามี่ ที่เพิ่งเทิร์นโปร​ ด้วยการเดินหน้าทุ่มทุกหยาดเหงื่อ เพื่อคนราชบุรี ในซีซั่นนี้ ของราชันมังกร เพื่อสร้างความสุขให้แฟนๆ ของพวกเขา จะสำเร็จอย่างที่หวังได้หรือไม่ พวกเขาจะสามารถนำถ้วยแชมป์กลับมาฉลองที่รังเหย้า โรงละครแห่งความหวานได้หรือไม่ น่าติดตามมากๆ

tri-csoccer.com