เมื่อนึกถึงฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ก็จะนึกถึงนักฟุตบอลที่สามารถเล่นได้หลายบทบาทในแนวรุก ทั้งกองกลางตัวรุก, ปีกริมเส้น และกองหน้า มีจุดเด่นเรื่องการเลี้ยงบอลดี, จ่ายบอลแม่น และยิงประตูนอกกรอบเขตโทษได้บ่อยๆ

เส้นทางชีวิตของเขา พลิกผันอย่างรวดเร็ว เพลย์เมกเกอร์ระดับต้นๆ ของวงการฟุตบอล ได้เข้ามาทำตามความฝัน กับการย้ายมาค้าแข้งในลาลีกา ด้วยค่าตัวมหาศาล แต่โลกแห่งความจริง กลับไม่เป็นอย่างที่หวัง

จุดเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลของคูตินโญ่ เริ่มจากการเล่นฟุตบอลบนพื้นคอนกรีตกับพี่ชายอีก 2 คน ก่อนที่ฝีเท้าของเขา จะไปเข้าตาแมวมองของสโมสรวาสโก ดา กามา ที่มีความสนใจดึงเขาเข้าสู่ฟุตบอลสนามใหญ่ ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ

เด็กหนุ่มจากริโอ เดอ จาไนโร อยู่กับทีมเยาวชนของวาสโก ดา กามา จนกระทั่งอายุได้ 16 ปี ก็ได้เปิดประสบการณ์ใหม่บนแผ่นดินยุโรป ด้วยการย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลาน ในอิตาลี

แต่ในขณะนั้น คูตินโญ่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ จึงถูกปล่อยให้วาสโก ดา กามา ทีมเก่าสมัยเป็นนักเตะเยาวชน ยืมตัวอยู่ 2 ปี ก่อนที่ในเดือนมกราคม 2012 ถูกปล่อยให้เอสปันญ่อล ในลาลีกา สเปน ยืมตัวไป 6 เดือน

ต่อมาในเดือนมกราคม 2013 คูตินโญ่ ได้ย้ายจากอินเตอร์ มิลาน ไปร่วมทีมลิเวอร์พูล ในอังกฤษ และในฤดูกาล 2013/14 มีส่วนสำคัญช่วยให้ลิเวอร์พูล เฉียดเข้าใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีกหนแรกในรอบกว่า 20 ปี

ทว่าในปี 2017 บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลาลีกา สเปน ตกเป็นข่าวว่า ต้องการซื้อตัวคูตินโญ่ไปร่วมทีม ทางลิเวอร์พูล พยายามทุกทางเพื่อรั้งตัวไว้ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าจะขออำลาถิ่นแอนฟิลด์ให้ได้ สุดท้ายลิเวอร์พูลยอมปล่อยตัวไปในที่สุด

จนกระทั่งวันที่ 6 มกราคม 2018 คูตินโญ่ บรรลุข้อตกลงย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวสูงถึง 142 ล้านยูโร แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร แต่หลังจากย้ายมาแล้ว เจ้าตัวประสบปัญหาการบาดเจ็บ ไม่ได้ลงเล่นถึง 3 สัปดาห์

วันที่ 28 มกราคม 2018 การแข่งขันลาลีกา นัดที่บาร์เซโลน่า เปิดบ้านรับการมาเยือนของอลาเบส เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิล ได้รับโอกาสลงสนามนัดแรก ด้วยการเป็น 11 ตัวจริง ในตำแหน่งปีกขวา ทำเกมรุกร่วมกับลิโอเนล เมสซี่ และหลุยส์ ซัวเรซ

แต่เป็นทีมเยือนที่ยิงประตูนำไปก่อนในครึ่งแรก จากผลงานของ จอห์น กุยเด็ตติ ขณะที่คูตินโญ่ ประเดิมเกมแรกด้วยการได้ลงเล่นนาน 65 นาที ก็ถูกเปลี่ยนตัวออกเป็นคนสุดท้าย และปาโก้ อัลคาเซร์ ลงสนามไปแทน

อีก 7 นาทีต่อมา หลังจากคูตินโญ่ถูกเปลี่ยนออก อันเดรียส อิเนสต้า ครอสบอลยาวให้ซัวเรซ ยิงประตูตีเสมอให้เจ้าบ้าน ก่อนที่เมสซี่ โชว์ทีเด็ดสังหารฟรีคิกตุงตาข่ายอย่างสวยงาม เป็นประตูชัยให้บาร์ซ่า เอาชนะไป 2-1

อย่างไรก็ตาม 4 เดือนแรกของคูตินโญ่ ช่วยสร้างอิมแพกต์ให้กับทีมได้ไม่น้อย ด้วยการทำได้ 7 ประตู กับ 6 แอสซิสต์ จากการลงเล่นลาลีกา 18 นัด มีส่วนช่วยให้บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของสเปน ประจำซีซั่น 2017/18 ไปครอง

ฤดูกาลต่อมา คูตินโญ่ ได้โอกาสลงสนามในลาลีกามากถึง 34 นัด แต่ผลงานสวนทางกับค่าตัวที่มหาศาล และความคาดหวัง เมื่อทำได้แค่ 5 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ กระนั้นบาร์ซ่า ก็ยังคว้าแชมป์ลาลีกา เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันได้สำเร็จ

ทำให้ในซีซั่นถัดมา ยักษ์ใหญ่แห่งคาตาลัน ตัดสินใจปล่อยคูตินโญ่ ให้บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมจากเยอรมนี ยืมตัวไปใช้งาน มีส่วนช่วยให้บาเยิร์น คว้าเทรบเบิ้ลแชมป์ในซีซั่นเดียว ทั้งบุนเดสลีกา, เดเอฟเบ โพคาล และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

หลังจากหมดสัญญายืมตัว 1 ซีซั่นกับบาเยิร์น ในซีซั่น 2020/21 คูตินโญ่ก็ย้ายกลับบาร์เซโลน่า ต้นสังกัดที่แท้จริงอีกครั้ง และได้โอกาสลงสนามไปแล้ว 12 นัดในลาลีกา ทำได้ 2 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ แต่ในเวลานี้ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า

ประวัติศาสตร์ และความยิ่งใหญ่ของบาร์เซโลน่า คือเหตุผลที่คูตินโญ่ได้เลือกที่จะทำตามความฝันของตัวเอง แต่ตลอด 3 ปีเต็มในถิ่นคัมป์ นู แสดงให้เห็นแล้วว่า ยังโชว์ฟอร์มได้ไม่สมกับค่าตัวที่มหาศาล และความคาดหวังของแฟนบอล

ด้วยวัยที่จะเข้าใกล้ 30 ปี ในอีกไม่นานนี้ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เหลือเวลาอีกประมาณ 3-4 ปี ในการพิสูจน์ตัวเองสำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพนักฟุตบอล ซึ่งแฟนๆ ต่างก็เอาใจช่วยให้กลับมาสร้างความตื่นตะลึงในลาลีกาได้อีกครั้ง

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวแวดวงกีฬา เทรนใหม่ๆ  ได้ที่       omnihomesinc.com