บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพชาวโปรตุกีสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าครั้งหนึ่งตนเคยรู้สึกท้อแท้กับการเล่นฟุตบอลมากๆ และอยากที่จะแขวนสตั๊ด ก่อนที่จะได้มาพบความสุขที่แท้จริงในถิ่นโอดล์ แทร็ฟฟอร์ด

     จอมทัพทีมชาติโปรตุเกส เริ่มต้นอาชีพในประเทศอิตาลี หลังจากที่ย้ายไปทำมาหารับประทานที่ดินแดนรองเท้าบู้ทตั้งแต่อายุ 17 ปี โดยในช่วงที่ค้าแข้งกับ อูดิเนเซ่ เจ้าตัวเกิดอาการ "คิดถึงบ้าน" อย่างหนัก และรู้สึกโดดเดี่ยว จนถึงขั้นต้องทบทวนตัวเองว่าควรจะเล่นฟุตบอลต่อไปหรือไม่

     อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเทส่งผลให้เขาสามารถผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายได้สำเร็จ และก้าวไปสู่เส้นทางฝันได้อย่างถูกต้อง โดย แฟร์นันด์ส กล่าวว่า "ผมต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งเพื่อความอยู่รอด พรสวรรค์ หรือการทำงานหนัก หรือจิตใจที่แข็งแกร่งมันไม่เพียงพอ คุณต้องผสมผสานทุกๆ อย่างเข้าด้วยกัน คุณต้องมีชีวิตอยู่เพื่อฟุตบอล มันถึงจะสมบูรณ์แบบ" 

      "ผมอยู่ตัวคนเดียวตั้งแต่อายุ 17 ในประเทศใหม่ ผมพูดภาษาอิตาเลียนไม่ได้เลย และผมไม่รู้จักใครซักคน ผมบอกคุณได้เลยว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากๆ มันยากแบบไม่อยากจะเชื่อ และก็โดดเดี่ยวเดียวดาย ในเวลานั้น ผมอยากเลิกเล่นฟุตบอลที่สุด" 

     หลังจากถูกยืมตัวไปเล่นกับ ซามพ์โดเรีย  1 ซีซั่น แฟร์นันด์ส มีโอกาสได้กลับไปยังดินแดนฝอยทองเพื่อเล่นให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ซึ่งเขาระเบิดฟอร์มสุดยอดก่อนจะได้ย้ายมาอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด โดยเจ้าตัวเป็นแฟนของ "ผีแดง" มาตั้งแต่เยาว์วัย และการได้เดินตามรอยเท้ารุ่นนี้อย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตำนาน "เร้ด เดวิลส์" ถือเป็นสิ่งที่มีเกียรติอย่างยิ่งในชีวิตของเขา

    แฟร์นันด์ส ซึ่งเพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก เดือนธันวาคม 2020 โดยคว้ารางวัลนี้ได้ถึง 4 เดือนในรอบปีปฎิทินเดียวอีกด้วย หลังได้ทั้งเดือนกุมภาพันธ์, มิถุนายน, พฤศจิกายน และ ธันวาคม ในปี 2020 เปิดใจว่าตนถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปิติที่ได้มาอยู่กับ "ผีแดง"

     "ตอนที่ผมรู้อย่างชัดเจนว่าการเซ็นสัญญามันกำลังจะเกิดขึ้น สิ่งแรกที่ผมทำก็คือการบอกภรรยาของผม และลูกสาวเกี่ยวกับข่าวนี้ และผมอดกลั้นไม่ได้จริงๆ...ผมเริ่มร้องไห้ มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข น้ำตาแห่งความปิติยินดี น้ำตาแห่งความทรงจำ" แฟร์นันด์ส ระบุ

ติดตามข่าว : louisvilleghostwalks.com